โรคหน้าฝนไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะหากชะล่าใจและไม่ทำการรักษาอย่างทันท่วงที โรคที่มากับฤดูฝนอาจเป็นสาเหตุนำไปสู่อาการป่วยรุนแรงมากกว่าที่เราคิด!? หลายคนอาจรู้สึกดีใจที่ประเทศไทยของเราเข้าสู่ฤดูฝนได้สักที แถมช่วงนี้เริ่มคลายล็อกดาวน์ บางคนก็เริ่มวางแผนหาที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพฯ กันแล้ว แต่รู้มั้ยคะว่าหน้าฝนเองก็มีภัยเงียบรอทำร้ายสุขภาพของเราและคนใกล้ชิดแบบไม่รู้ตัว นั่นก็คือบรรดาอาการป่วยในฤดูฝนทั้งหลายนั่นเอง!
โรคที่มากับฤดูฝนมักมาพร้อมกับอากาศและความชื้นที่เปลี่ยนไป เป็นสาเหตุให้เชื้อไวรัสและแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายของเราได้ง่ายกว่าปกติจนทำให้เกิดโรคร้ายตามมา ดังนั้นอย่าลืมเตรียมพร้อมป้องกันตัวเองไว้ก่อนจะป่วยหนัก ด้วยการทำความรู้จักกับ 7 โรคหน้าฝนที่ควรระวังที่ HAPPINESSO นำมาฝากกันดีกว่าค่ะ
7 โรคหน้าฝนที่ควรระวัง อัปเดตล่าสุด 2020
ปีนี้ฤดูฝนมาทักทายประเทศไทยของเราตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน บางช่วงฝนตกหนัก บางช่วงฝนก็ทิ้งห่างไป แต่สิ่งที่มาพร้อมกับสายฝนก็คือสภาพอากาศที่แปรปรวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น รวมถึงความชื้นที่เพิ่มสูงขึ้นจนเป็นที่มาของโรคและอาการป่วยต่างๆ
โรคตาแดง
ตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบ เป็นโรคหน้าฝนที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส ผู้ป่วยจะเกิดอาการระคายเคืองตาจนทำให้ตาแดง เจ็บตา และมีน้ำตาไหล วิธีป้องกันโรคตาแดงที่ดีที่สุดก็คือ ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งเมื่อมีโอกาส รวมถึงไม่สัมผัสหรือขยี้ตาแรงๆ หากรู้สึกระคายเคืองตาควรใช้วิธีลืมตาในน้ำสะอาดแทนค่ะ
โรคไข้เลือดออก
ไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากการติดต่อโดยมีพาหะมาจากยุงลาย เป็นหนึ่งในโรคหน้าฝนที่พบได้บ่อยมาก ผู้ที่ติดเชื้อครั้งแรกอาการป่วยจะไม่รุนแรง มักมีไข้สูงแต่หากได้รับการรักษาทันท่วงทีอาการก็จะค่อยๆ ทุเลาลง แต่หากเป็นการติดเชื้อครั้งที่สองหรือติดเชื้อในเด็กล่ะก็ระดับความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นสูงมากจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ วิธีป้องกันโรคก็คือทำลายแหล่งลูกน้ำยุงลาย รวมถึงการกำจัดพาหะนำโรคอย่างยุงลายที่อยู่ภายในบ้านของเรา
โรคฉี่หนู
โรคที่มากับหน้าฝนโรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในปัสสาวะของสัตว์โดยมีน้ำเป็นตัวนำพาเชื้อโรค ถึงจะชื่อว่าโรคฉี่หนู แต่ไม่ว่าจะเป็นปัสสาวะของสัตว์ชนิดใดก็อาจนำเชื้อร้ายมาสู่เราได้เช่นกันนะคะ ผู้ป่วยจะมีไข้สูง คลื่นไส้อาเจียน ไม่อยากอาหาร รวมถึงมีผื่นคันขึ้นตามตัว วิธีป้องกันก็คือเลี่ยงการเดินลุยน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะคนเมืองที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมบ่อยๆ
โรคปอดอักเสบ
เป็นอีกหนึ่งอาการป่วยในฤดูฝนที่พบได้ประจำ มักเกิดกับผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ สุขภาพไม่แข็งแรง เป็นโรคติดต่อผ่านทางอากาศซึ่งผู้ป่วยอาจได้รับเชื้อผ่านทางการไอหรือจาม หากป่วยเป็นโรคปอดอักเสบแล้วล่ะก็ จะมีอาการหายใจหอบ เหนื่อยง่าย หากอาการรุนแรงก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้ วิธีป้องกันก็คือหมั่นรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องอยู่ในที่ชุมชน
โรคน้ำกัดเท้า
น้ำกัดเท้าเป็นโรคหน้าฝนที่เกิดจากการติดเชื้อราบริเวณเท้า ผู้ป่วยจะมีอาการคันตรงง่ามนิ้วและฝ่าเท้า ผิวเปื่อย ลอกเป็นขุย วิธีป้องกันโรคน้ำกัดเท้าก็คือการล้างเท้าให้สะอาดและซับให้แห้งโดยไม่ปล่อยให้เท้าเปียกหรืออับชื้นค่ะ
โรคต่อมทอนซิลอักเสบ
โรคชนิดนี้เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่มาจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ หนาวสั่น เจ็บคอและกลืนลำบากเนื่องจากต่อมทอนซิลบวมโต หากอาการรุนแรงอาจเกิดอาการปวดศีรษะและปวดเมื่อยตามเนื้อตัวด้วย วิธีป้องกันก็คือการดื่มน้ำอุ่นและรักษาความอบอุ่นให้ร่างกายในช่วงหน้าฝนค่ะ
โรคไข้หวัดใหญ่
โรคที่มากับฤดูฝนอย่างไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza) ซึ่งพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง กลุ่มเสี่ยงของโรคคือเด็กเล็กวัย 0-4 ปี, ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป, หญิงมีครรภ์, และผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง แต่อย่างไรก็ตามห้ามชะล่าใจเด็ดขาดเพราะหากเราปล่อยให้สุขภาพแย่และภูมิต้านทานต่ำลง แม้แต่หนุ่มสาววัยเรียนและวัยทำงานก็มีโอกาสติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้เช่นกัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ขึ้นสูง เป็นหวัด มีน้ำมูกและเสมหะ มีความเสี่ยงเกิดอาการช็อกจากไข้เฉียบพลัน หากไม่รักษาอย่างถูกวิธีเพื่อบรรเทาอาการก็อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
สายฝนอาจนำความชุ่มฉ่ำเย็นสบายมาช่วยคลายร้อนให้เรา แต่อย่าลืมนะคะว่าโรคหน้าฝนก็มีความเสี่ยงเกิดกับเราและคนรอบข้างได้หากไม่ระมัดระวังสุขภาพให้ดี ดังนั้น อย่าประมาทอาการป่วยในฤดูฝน หมั่นดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงและดูแลสุขอนามัยต่างๆ อยู่เสมอ แค่นี้โรคที่มากับหน้าฝนก็ทำอะไรคุณไม่ได้แล้วค่ะ
